Divinity: Original Sin 2 เกม RPG สายวางแผนสุดลึก ที่สายวิเคราะห์ต้องลองสักครั้ง

Browse By

ถ้าพูดถึงเกม RPG ที่ให้เรานั่งจ้องจอคิดแผนจนชาแขน กดเซฟก่อนคุยกับทุกคน เดินผิดคำพูดเดียวเมืองแตกได้ และการวางตำแหน่งยืนในสนามสู้สำคัญพอ ๆ กับค่าพลัง ชื่อของ Divinity: Original Sin 2 เกม RPG สายวางแผนสุดลึก ต้องโผล่ขึ้นมาในหัวสายฮาร์ดคอร์แน่นอน นี่คือเกมที่ให้เราเป็นทั้งผู้เล่นและ “ดีเอ็มในหัวตัวเอง” ไปพร้อมกัน เลือกได้ว่าจะเล่นเป็นจอมเวทสุดเนิร์ด นักรบหัวหมุน สายโจรเนียนกริบ หรือแม้แต่กบพูดได้ที่เล่นเวทไฟ–พิษได้พร้อมกันก็ยังได้

ระหว่างที่เรานั่งฟอร์มปาร์ตี้ 4 ตัวละคร วางสกิล ปั้นสเตต วางแผนว่าจะใช้ถังน้ำมันต่อกับพิษแล้วค่อยจุดไฟ หรือจะโยนศัตรูลงจากระเบียงดี บางคนก็พักสมองจากการคิด build หนัก ๆ ไปลุ้นอะไรเบา ๆ ในโลกจริง เช่น ดูบอล เช็กสกอร์ หรือลองเข้าไปดูโลกกีฬา/เดิมพันที่ตัวเองคุ้นอยู่แล้วอย่าง สมัคร UFABET เปลี่ยนจากลุ้นเทิร์นในเกมมาเป็นลุ้นจังหวะในสนามจริงบ้าง แต่ไม่ว่าคุณจะลุ้นในเกมหรือนอกเกม สิ่งที่เหมือนกันคือ “ยิ่งข้อมูลเยอะ แผนยิ่งคม” ทั้งหมดนี่แหละที่ทำให้ DOS2 โคตรถูกใจสายวิเคราะห์สุด ๆ


Divinity: Original Sin 2 คือเกมแบบไหนกันแน่

สรุปสั้น ๆ ให้เห็นภาพก่อนเลยว่า

Divinity: Original Sin 2 คือเกม RPG มุมมองบน–เฉียง (isometric) แบบเทิร์นเบส ที่เน้นการวางแผน การคอมโบสกิล การเล่นบทบาท (roleplay) และการเลือกคำพูดที่มีผลกับทั้งเนื้อเรื่องและการสู้

จุดเด่นหลัก ๆ คือ

  • ระบบต่อสู้เทิร์นเบสที่ลึกมาก
  • ระบบธาตุ–สภาพสนาม (น้ำ ไฟ พิษ เลือด ไฟฟ้า ฯลฯ) ที่เอามาผสมกันจนหัวแตก
  • เนื้อเรื่องที่ไม่บังคับทางเดียว มีทางเลือกทะลุทะลวงเยอะมาก
  • สร้างตัวละครเองก็ได้ หรือจะเล่นเป็น “ตัวละครต้นแบบ” (Origin Characters) ที่มีเนื้อเรื่องส่วนตัวจัดเต็มก็ได้
  • เล่นคนเดียวก็มัน เล่น Co-op กับเพื่อนก็ยิ่งวุ่นวาย–ยิ่งสนุก

นี่คือเกมที่เวลาเล่นแล้วจะเกิดโมเมนต์ “เฮ้ย แบบนี้ก็ได้เหรอ!?” ตลอด ไม่ว่าจะเป็นในสนามรบหรือในบทสนทนากับ NPC ก็ตาม


โลกของ Rivellon และบทบาทของเราใน Divinity: Original Sin 2

ฉากหลังของเกมเกิดขึ้นในโลกแฟนตาซีชื่อ Rivellon โลกที่เวทมนตร์ไม่ใช่ของน่ารัก แต่เป็นสิ่งที่ถูกกลัว ถูกจับตามอง และถูกควบคุมอย่างเข้มงวด

เราเล่นเป็นหนึ่งในคนที่มีพลังพิเศษเรียกว่า Sourcerer

  • คนที่ใช้พลังจาก “Source” ซึ่งแรงและอันตราย
  • เพราะทุกครั้งที่ใช้พลังนี้ มีสิทธิ์ดึงดูด “Voidwoken” สิ่งมีชีวิตจากความว่างเปล่ามาอาละวาด

แน่นอนว่าพอโลกกลัว คนที่มีพลังแบบนี้ก็โดนจับกด

  • โดนส่งเข้า Fort Joy ค่ายกักกัน สถานที่ที่บอกว่าไว้รักษา…แต่จริง ๆ ก็ไม่ต่างจากคุกหรือนรกบนดินเท่าไหร่

จากจุดนี้เราเริ่มตัดสินใจได้ว่า

  • จะหนีออกไปเพื่อเอาตัวรอดเฉย ๆ
  • จะยอมรับชะตา
  • หรือจะใช้พลังของตัวเองเดินหน้าสู่การเป็น “เทพองค์ใหม่ของ Rivellon”

เนื้อเรื่องหลักจะโยงไปสู่การเมือง ศาสนา เทพโบราณ และความจริงว่าจริง ๆ แล้ว “Source” กับ “Void” คืออะไรกันแน่


Origin Characters vs สร้างตัวเอง: เล่นแบบไหนดี

จุดเด่นของ DOS2 คือเราเลือกได้ว่า

  • จะสร้างตัวเองใหม่ตั้งแต่ศูนย์ (ชื่อ–สายอาชีพ–เผ่า–นิสัย)
  • หรือจะเลือกเล่นเป็นหนึ่งใน Origin Characters ที่ทีมงานเขียนเนื้อเรื่องส่วนตัวแน่น ๆ มาให้แล้ว เช่น
    • Lohse นักดนตรีสาวที่มีบางอย่างในตัวเธอไม่ใช่คนธรรมดา
    • Ifan ben-Mezd ทหารรับจ้างอดีตทหารศักดิ์สิทธิ์
    • Fane โครงกระดูกจากเผ่าโบราณที่ไม่มีใครรู้ว่าคืออะไร (เผ่านี้ตลกมาก)
    • Sebille เอลฟ์นักล่าทาสที่มีอดีตโคตรเข้ม
    • The Red Prince เจ้าชายกิ้งก่าที่มั่นใจในตัวเองสุด ๆ
    • Beast คนแคระกัปตันเรือกบฏ ฯลฯ

ถ้าเล่น Origin ตัวละครเหล่านี้

  • จะมีเควสต์ส่วนตัว
  • มีบทสนทนาเฉพาะ
  • มีปฏิกิริยากับโลกไม่เหมือนคนอื่น

ถ้าสร้างตัวเอง

  • จะได้ความอิสระสูงสุด สร้างคาร์แรคเตอร์แบบที่อยากเล่น
  • แต่จะไม่ได้ “เนื้อเรื่อง Origin แบบเป๊ะ ๆ” (เรายังดึงพวกเขาเข้าปาร์ตี้ได้เป็นเพื่อนร่วมทางอยู่ดี)

สายเนื้อเรื่องแนะนำให้เล่น Origin อย่างน้อย 1–2 รอบ เพราะความอร่อยของเกมจำนวนหนึ่งอยู่ที่ backstory ของตัวละครเหล่านี้


ระบบต่อสู้เทิร์นเบส: คิดผิดแค่ก้าวเดียว ปาร์ตี้แตกทั้งวง

สำหรับสายวางแผน เกมนี้คือสวรรค์

  • การต่อสู้เป็นเทิร์นเบสใช้ระบบ Action Points (AP)
  • ทุกการกระทำใช้ AP: เดิน กดสกิล โจมตีปกติ ใช้ไอเทม ฯลฯ
  • AP ในเทิร์นมีจำกัด ต้องคิดให้ดีว่าจะทำอะไรลำดับไหน

สิ่งที่ทำให้มันลึกมากคือ

  • ระบบ เกราะกายภาพ (Physical Armor) และ เกราะเวท (Magic Armor)
  • เอฟเฟกต์บางอย่างจะติดได้ก็ต่อเมื่อเรา “เจาะเกราะชนิดนั้นหมด” แล้ว เช่น
    • จะทำให้ศัตรูล้ม (Knockdown) ต้องเจาะเกราะกายภาพหมด
    • จะทำให้ติดสถานะ Freeze, Burning, Stun ต้องเจาะเกราะเวทให้หมดก่อน

ทำให้การจัดทีมแบบ

  • สายตีแรงกายภาพทั้งปาร์ตี้
  • สายเวททั้งปาร์ตี้
  • หรือแบบผสม

ส่งผลโดยตรงกับวิธีวางแผนสนามรบ ต้องคิดว่าใครจะเจาะเกราะแบบไหนก่อน


ธาตุและสภาพสนาม: น้ำ–ไฟ–พิษ–เลือดคือของเล่น

ใน Divinity: Original Sin 2 เกม RPG สายวางแผนสุดลึก พื้นสนามไม่เคยเป็น “พื้นเฉย ๆ”

  • ถ้ามีน้ำหรือเลือดอยู่บนพื้น → ใช้เวทไฟเปลี่ยนเป็นไอน้ำ/เลือดเดือด → ศัตรูโดนดาเมจ
  • ถ้ามีพิษ → ใช้ไฟจุดให้ระเบิด → กลายเป็นสารพิษระเบิดกระจาย
  • ถ้ามีพื้นเปียก → ยิงสายฟ้า → ศัตรูมีสิทธิ์โดนช็อตติด Stun
  • ถ้ามีเลือดบนพื้น → ใช้ Necromancy ดูดเลือดมาเป็นพลังชีวิต

หลักคิดคือ

สนามรบ = กล่องทราย (sandbox) ที่เอาสกิลของเราไป “วาดรูป” ได้

บางทีแผนดีมาก แต่ลืมไปว่าตัวเองยืนในแอ่งน้ำ → เราโดนช็อตเองก่อนเพื่อนก็มีให้เห็น 😅


ตารางสรุประบบหลักของ Divinity: Original Sin 2

ระบบรายละเอียดย่อจุดเด่นที่สายวางแผนต้องชอบ
การต่อสู้เทิร์นเบสใช้ AP ทำทุกอย่างในเทิร์นต้องคิดลำดับการเดิน–ใช้สกิลอย่างรอบคอบ
เกราะสองแบบเกราะกายภาพ vs เกราะเวทเลือกได้ว่าจะเน้นทีมกายภาพหรือทีมเวท หรือผสม
สนามธาตุพื้นน้ำ ไฟ พิษ เลือด ไฟฟ้า ฯลฯคอมโบได้สารพัด เคลียร์สนามได้เป็นพันสูตร
Origin Charactersตัวละครที่มีเนื้อเรื่องส่วนตัวแน่น ๆเล่นซ้ำได้หลายรอบไม่เบื่อ
Co-opเล่นกับเพื่อนได้สูงสุด 4 คนแผนยิ่งวุ่นยิ่งสนุก ทะเลาะเรื่อง “เมจใครจุดไฟใส่ใคร”
การเลือกคำพูดทุกบทสนทนามีผลต่อเควสต์/ท่าทีของคนอื่นเล่นได้บท รู้สึกว่าตัวเลือกเรามีความหมายจริง

Co-op กับเพื่อน: จากปาร์ตี้ช่วยกันกลายเป็นวงแตก

แม้จะเล่นคนเดียวก็สนุกอยู่แล้ว แต่ DOS2 ยังรองรับ Co-op สูงสุด 4 คน

  • แต่ละคนคุมตัวละครของตัวเอง
  • สุ่มความกวนคนละสาย
  • ใช้สกิลคนละวิธี → สนามรบกลายเป็นอาวุธลับและอุบัติเหตุในเวลาเดียวกัน

โมเมนต์ฮิตเช่น

  • เพื่อนเมจใช้ไฟเผาพื้นพิษเพื่อทำดาเมจ แต่ดันลืมว่าตัวเรายืนอยู่ในนั้นด้วย = เราไหม้ไปพร้อมศัตรู
  • เรากำลังจะใช้สกิลคอมโบเทพ ๆ อยู่แล้ว เพื่อนดันจบเทิร์นไวไปหน่อย…เก็บไม่หมด 🙂
  • ตอนคุยกับ NPC อยู่ดี ๆ เพื่อนอีกคนเดินไปขโมยของด้านหลัง → NPC จับได้ → กลายเป็นตีกันทั้งเมือง

ข้อดีคือมันทำให้เกมนี้เป็นทั้ง RPG เนื้อเรื่องเข้ม และ ปาร์ตี้เกม ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าหลังเล่นจบ เอาไปเมาท์ได้อีกนาน


สายวิเคราะห์–สายลุ้น: เมื่อทุกการตัดสินใจคือเดิมพัน

การเล่น Divinity: Original Sin 2 คือการ “เดิมพันกับแผน” ของตัวเอง

  • เดิมพันว่าพื้นสนามที่เราวางแผนไว้จะไม่ย้อนกลับมาทำร้ายเรา
  • เดิมพันว่าการไปยืนจุดนั้นจะไม่โดนตีรวม 3 ตัวในเทิร์นเดียว
  • เดิมพันว่าคำพูดที่เลือกใช้กับ NPC จะพาเควสต์ไปทางดี ไม่ใช่พังเละ

มันคล้ายกับเวลาเราลองลุ้นอะไรในชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็น

  • จัดทีมบอลในหัวแล้วลุ้นให้ยิงตามแผน
  • ดูราคา–สถิติ แล้วเลือก “ฝั่ง” ของตัวเอง
  • หรือเข้าไปเช็กตลาด/ตารางต่าง ๆ แบบเบา ๆ ผ่านแพลตฟอร์มที่เราคุ้นอยู่แล้วอย่าง ยูฟ่าเบท เพื่อดูว่า “วันนี้อะไรน่าจับตา”

สิ่งที่เหมือนกันคือ

  • ยิ่งข้อมูลเยอะ แผนยิ่งคม
  • ยิ่งวิเคราะห์ดี ความเสี่ยงยิ่งคุมได้
  • แต่ก็ไม่มีแผนไหนการันตี 100% ว่าไม่พัง

เกมสอนเราโดยไม่ต้องเทศน์ว่า

แพ้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ถ้าเราเอาผลลัพธ์มาปรับแผนรอบหน้า

เวลาโดนศัตรูตบตายหมู่ เราก็แค่โหลดกลับไปก่อนไฟต์แล้วเปลี่ยนแผนใหม่
ต่างจากชีวิตจริงที่บางครั้ง “เดิมพันพลาด” แล้วย้อนกลับไม่ได้ เพราะงั้นเวลาเล่นจริง ๆ นอกจอ อย่าลืมเติมเงื่อนไขในใจตัวเองว่า

  • จะลุ้นเท่าไหนถึงยังเรียกว่า “สนุก”
  • และก่อนจะตัดสินใจอะไร ให้คิดเผื่อเวอร์ชันพลาดไว้เสมอ

เหมือนใน DOS2 ที่เราต้องคิดไว้แล้วว่า “ถ้าแผนนี้ไม่เวิร์ก จะถอยยังไง?”


ปั้นตัวละครยังไงให้สนุก: Party Comp และสายยอดนิยม

ในปาร์ตี้ 4 คน เราสามารถทำหลายสายมาก แต่ถ้าเป็นมือใหม่ แนะนำโครงง่าย ๆ เช่น

  • หนึ่งสาย front line – นักรบ/แทงค์ คอยเจาะเกราะกายภาพและรับดาเมจ
  • หนึ่งสาย healer/Support – เน้นรักษา–ถอดดีบัฟ–ช่วยคุมสนาม
  • หนึ่งสายเวท–ดาเมจหนัก ๆ – เมจธาตุที่เน้นเปลี่ยนสนามรบให้เป็นนรก
  • หนึ่งสาย rogue/นักฆ่า – เน้นตีแรงมาก ๆ ทีเดียว หลบดี เน้นเจาะหลัง

สกิลเกมนี้ไม่ได้ล็อกตาม “อาชีพ” แข็ง ๆ

  • เราใช้หนังสือสกิลจากสำนักต่าง ๆ (เช่น Pyro, Hydro, Geo, Aero, Necro, Warfare, Scoundrel ฯลฯ)
  • ยิ่งลงทุนแต้มในสายไหนมาก ก็ใช้สกิลโหดของสายนั้นได้

เล่นไปสักพักจะเริ่มอยากลองสายแปลก ๆ เช่น

  • แทงค์ที่ใช้ Necromancy ดูดเลือดจากทุกคน
  • Rogue ที่เล่นธาตุพิษและไฟร่วมกัน
  • เมจที่เน้น CC ล้วน ๆ ทำให้ศัตรูล้ม นอน หลับ มึนทั้งแมพ

ทั้งหมดคือของเล่นที่ DOS2 มีให้แบบจัดเต็ม


Tips สำหรับมือใหม่ Divinity: Original Sin 2

  • เซฟบ่อย ๆ แบบไม่ต้องเขิน
    เกมนี้เซฟก่อนคุยกับคน เซฟก่อนเปิดหีบ เซฟก่อนเข้าไฟต์คือเรื่องปกติ ไม่ได้ขี้โกง แต่คือการเคารพเวลาตัวเอง
  • อ่านสกิลให้ครบ และลองคิดคอมโบเอง
    หลายครั้งสกิลที่ดูงั้น ๆ กลับกลายเป็นพระเอกเมื่อจับคู่กับสกิลอีกตัวหนึ่ง เช่น สร้างน้ำ → แช่แข็ง → ทำลื่น
  • อย่าขี้เกียจใช้สิ่งแวดล้อมให้คุ้ม
    ถังน้ำมัน น้ำ พิษ กล่อง โต๊ะ บันได ทุกอย่างคืออาวุธและเกราะกำบัง ใช้ให้เป็นแล้วไฟต์ธรรมดา ๆ จะกลายเป็นหมากล้อมทันที
  • คุยกับทุกคน – เท่าที่ใจไหว
    เควสต์ดี ๆ ในเกมนี้จำนวนมากซ่อนอยู่หลังคนที่ดู “ไม่น่ามีอะไร” เสมอ
  • อย่าตกใจถ้าไฟต์หนึ่งใช้เวลาโคตรนาน
    บางไฟต์ 20–30 นาทีเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะถ้าเป็นไฟต์ใหญ่ช่วงท้ายเกม ถือว่าเป็นฟีเจอร์ไม่ใช่บั๊ก 😆

FAQ: คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Divinity: Original Sin 2 เกม RPG สายวางแผนสุดลึก

Q: ถ้าไม่เคยเล่นภาคแรก จะเล่น Divinity: Original Sin 2 รู้เรื่องไหม?
ตอบ: เล่นได้เลย ภาค 2 เป็นเรื่องคนละช่วงเวลา–คนละประเด็นกับภาคแรก มีการอ้างถึงบ้างแต่ไม่ถึงกับงง ใครเริ่มที่ภาค 2 ก่อนก็ยังอินได้เต็ม ๆ


Q: เกมนี้ยากไหมสำหรับมือใหม่สาย RPG?
ตอบ: ยอมรับตรง ๆ ว่าโค้งการเรียนรู้ค่อนข้างชัน โดยเฉพาะเรื่องระบบต่อสู้และคอมโบสนาม แต่ถ้าคุณชอบคิดแผน–ชอบลองผิดลองถูก จะสนุกมาก แนะนำเริ่มที่ความยากปกติหรือ Story Mode เพื่อตั้งหลักก่อนก็ได้


Q: เล่นคนเดียวกับเล่น Co-op ให้ฟีลต่างกันไหม?
ตอบ: คนเดียวจะโฟกัสเนื้อเรื่องและวางแผนละเอียดตามใจตัวเองเต็มที่ ส่วน Co-op จะเพิ่มความอลหม่านและความฮา เพราะคนในปาร์ตี้เล่นกันคนละสไตล์ ตัดสินใจไม่ตรงกัน ทำให้เกิดสถานการณ์พีค ๆ เยอะมาก


Q: ต้องเก่งภาษาอังกฤษแค่ไหนถึงจะเล่นสนุก?
ตอบ: เนื้อเรื่องและบทพูดของ DOS2 เยอะและเขียนดีมาก ถ้าอ่านอังกฤษได้ระดับกลาง–ดีจะฟินสุด เพราะจะได้เสพทุกมุกและทุกความลึกของตัวละคร ถ้าอ่านได้บ้าง อ่านไม่หมดก็ยังเล่นได้ แต่เสน่ห์เนื้อเรื่องอาจหายไปส่วนหนึ่ง


Q: ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะจบหนึ่งรอบ?
ตอบ: แล้วแต่สาย คุณเล่นเส้นหลักอย่างเดียวกับทำเควสต์แค่พอประมาณ ก็อาจจบในราว ๆ 40–60 ชั่วโมง แต่ถ้าจะขุดเกือบทุกอย่าง คุยทุกมุม ทำเควสต์เสริมแทบหมด บางคนเล่นเกิน 100 ชั่วโมงยังไม่เบื่อ


Q: เนื้อเรื่องต้องเลือกข้างการเมือง/ศาสนาอะไรไหม?
ตอบ: เกมเปิดให้เราเลือกได้ว่าจะยืนฝั่งไหน หรือจะยืนกลาง ๆ ก็ได้ การตัดสินใจทางอุดมการณ์บางอย่างจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ของตัวละคร และตอนจบบางแง่มุม แต่ไม่มีคำว่า “ผิดต้องเล่นใหม่” มีแค่ “ทางนี้ทำให้เรื่องออกมาอีกแบบหนึ่ง”


Q: ถ้าไม่ชอบเทิร์นเบส จะเล่นไหวไหม?
ตอบ: ใจจริงอยากบอกให้ลอง เพราะระบบมันลึกและสนุกจริง ๆ แต่ถ้าไม่ชอบเทิร์นเบสเลย เกลียดการรอเป็นเทิร์น เกมนี้อาจไม่ใช่ทาง แต่ถ้าคุณโอเคกับเกมแบบ XCOM, Fire Emblem หรือ Tactics อื่น ๆ มาก่อน DOS2 จะยกระดับความฟินไปอีกขั้น


Q: เล่นบนอะไรดี PC หรือเครื่องคอนโซล?
ตอบ: PC จะสะดวกที่สุดเพราะเมนูเยอะ มีม็อดได้ด้วย แต่อย่างบนคอนโซลก็พอร์ตมาดี เล่นบนจอใหญ่ นอนเอนหลังวางแผนแบบชิล ๆ ก็สบายตาดีเหมือนกัน ขึ้นกับว่าคุณชอบจิ้มเมาส์หรือจับจอยมากกว่า


บทสรุป: ทำไม Divinity: Original Sin 2 เกม RPG สายวางแผนสุดลึก ถึงยังโคตรคุ้มเวลาจนถึงวันนี้

ในยุคที่หลายเกมพยายามทำให้ “เร็ว ง่าย ดันคอนเทนต์ไว ๆ” จนเราบางทีก็รู้สึกว่าระบบทุกอย่างถูกลดทอนให้กดผ่านได้แบบไม่ต้องคิดเยอะ การได้กลับมาเล่น Divinity: Original Sin 2 เกม RPG สายวางแผนสุดลึก เหมือนการนั่งกินข้าวบ้านที่คนทำ “ตั้งใจทุกขั้นตอน”

  • ทุกไฟต์คือโจทย์ที่เราแก้ได้หลายวิธี
  • ทุกบทสนทนาคือโอกาสให้เราเลือกจะเป็นคนแบบไหน
  • ทุกการพลาดคือบทเรียนที่รอบหน้าเราจะไม่เดินซ้ำจุดเดิม

ในโลกจริง เรามีเรื่องให้คิด ให้วางแผน ให้ “เดิมพันกับการตัดสินใจ” อยู่ทุกวัน บางคนใช้สมองเยอะในงานจนหัวตื้อ เลยอยากหากิจกรรมเปลี่ยนโหมดบ้าง ทั้งการเล่นเกมลึก ๆ อย่าง DOS2 และการลุ้นเบา ๆ ผ่านโลกกีฬา–บันเทิงออนไลน์ที่คุ้นเคยผ่าน ทางเข้า UFABET ล่าสุด ก็ล้วนเป็นวิธีเติมสีสันในชีวิตได้ทั้งนั้น ตราบใดที่เรายังรู้ลิมิตของตัวเอง และไม่ปล่อยให้ความลุ้นกลายเป็นภาระในอนาคต

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในสนามรบแฟนตาซีของ Rivellon หรือในสนามจริงของโลกเราเอง สิ่งที่ช่วยให้เรายืนอยู่ได้ไม่ใช่แค่ดวงหรือของเทพ แต่คือ “ความกล้าจะคิดแผน และความยืดหยุ่นจะเปลี่ยนแผนเมื่อมันไม่เวิร์ก” ถ้าวันไหนคุณรู้สึกว่าอยากทดสอบสกิลคิด หลบ วางตำแหน่ง ปั้นตัวละคร และอยากเห็นว่าคำพูดหนึ่งประโยคเปลี่ยนทั้งโลกในเกมได้ยังไง ลองให้โอกาสตัวเองหลุดเข้าไปใน Divinity: Original Sin 2 เกม RPG สายวางแผนสุดลึก สักลูปหนึ่ง แล้วคุณอาจจะกลับออกมาพร้อมมุมมองใหม่ ๆ ทั้งต่อเกม RPG และต่อวิธีวางแผนชีวิตของตัวเองด้วย 💫📜🗡️